Cat T-Shirt 6, คอมพิวเตอร์โอลิมปิกระดับชาติ (TOI15) การจัดบ้านแบบคอนมาริกับเรื่องอื่น ๆ ของครึ่งแรกของปี 2562

Chayapatr Archiwaranguprok
6 min readNov 10, 2019

เดือนมีนาคม

หลังจากที่ตัวเองลังเลไม่กล้าสอบสอวน. มาหลายปี ในที่สุดเมื่อประมาณกลางปีที่แล้วผมก็ตัดสินใจสมัครและไปสอบคัดเลือกเข้าสอวน. คอมพิวเตอร์ แล้วเกิดผ่านเข้าค่ายแรกกับค่ายสองในเวลาต่อมา ในช่วงหลังจากจบค่ายสองเลยตัดสินใจเขียนบล็อกเล่าเรื่องข้อมูลกับประสบการณ์ของตัวเอง (จากการที่ก่อนเข้าอยากรู้เรื่องในค่ายแล้วไม่เคยมีคนเขียนไว้) โดยบทความที่แล้วก็เล่าเรื่องไปจนถึงช่วงก่อนประกาศผลคนที่ได้รับคัดเลือกไปแข่ง TOI ซึ่งตัวเองก็ติดขึ้นมาเลยออกมาเป็นบทความที่สองข้างล่างนี้ (ที่บอกไว้ก่อนเลยว่าไม่ได้จะพูดแค่เรื่องตอนแข่งแต่อยากเล่าประสบการณ์ตัวเองในช่วงนั้นลงไปด้วย) ซึ่งถ้าใครไม่เคยอ่านตอนก่อนแล้วสนใจก็ไปตามที่ลิงก์ด้านล่างได้เลยนะครับ

เดือนเมษายน

Sapporo Dome, ทีมสีแดงดำคือ Hokkaido Consadole

วันที่ 6 มิถุนายน ที่ Sapporo Dome จังหวัดฮกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงพักครึ่งของแมทช์กีฬาฟุตบอลระหว่างทีม Hokkaido Consadole (ที่มีเจ ชนาธิป นักบอลชื่อดังชาวไทยลงเล่นแข่ง) กับทีม Oita Trinita (และแพ้ทีม Oita Trinita 1 ต่อ 2 ไปในเวลาต่อมา) ผม (ที่โดนน้องชายที่อยากลองดูการแข่งฟุตบอลที่ญี่ปุ่น, บังเอิญไปเที่ยวที่โดม, พบว่ามันกำลังจะถึงเวลาแข่งพอดี จองตั๋วแล้วลากผมไปดูการแข่งนัดนั้นด้วย) ก็เปิด facebook ไปอ่านคอมเมนต์ในสเตตัสที่ตัวเองเพิ่งโพสต์ไปไม่นาน (ที่เกี่ยวกับโดนลากมาดูบอลนี่แหละ!) ก็เห็นคอมเมนต์ของพี่มิวสิค รุ่นพี่เตรียมอุดมฯ​ที่รู้จักจากค่าย Junior Webmaster Camp 10 (JWCx) แล้วมาเจอกันอีกทีตอนเข้าค่ายสอวน. ค่าย 2 ต้นปีคอมเมนต์มาว่า:

(พี่เค้าก็ได้ไปแข่งเหมือนกันนะ)

ก็เลยรีบไปเช็คดูโพสต์ของเพจสอวน. แล้วก็เจอชื่อตัวเองติดอยู่

เดือนพฤษภาคม

ช่วงเวลาที่ผมเข้าสอวน. ค่าย 2 เป็นช่วงหลังจากจบภาคเรียนที่ 2 ของโรงเรียน หลังจากจบค่ายสอวน. ผมก็ได้ไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ได้รู้ว่าตัวเองติด TOI ก่อนที่จะกลับมานั่งทบทวนเนื้อหาเตรียมตัวแข่งไปเรื่อย ๆ โดยใช้อ้างอิงหลัก ๆ จากหนังสือเรื่อง Competitive Programmer’s Handbook ของคุณ Antti Laaksonen (สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีออนไลน์) [Competitive Programmer’s Handbook](https://cses.fi/book/book.pdf) แต่ก็ด้วยความ nervous (+เครียด/ย้อนแย้ง) ของตัวเอง ทำให้แทบไม่กล้าลองแก้โจทย์ส่งตรวจกับ Grader เลย พอมาถึงจุด ๆ นึงก็รู้สึกว่าตัวเองเครียดกับการแข่งเกินไปซึ่งก็ไม่ได้ส่งผลดีอะไรเลย ก็เลยลดแรงกดดันกับตัวเองแล้วทำเท่าที่ไหวพอ

สิ่งนึงที่ดีมากที่ช่วยลดความเครียดคือการจัดห้องของตัวเองโดยประยุกต์วิธี KonMari (ของคุณมาริ คนโดชาวญี่ปุ่นที่เขียนออกมาเป็นหนังสือขาย) ที่รู้จักจากพี่ไท (Thai Pangsakulyanont) ตอนกำลังจับกลุ่มคุยเรื่องสัพเพเหระหลังจบค่าย Young Creator’s Camp ที่มาช่วยทำค่าย ตัวเองก็เกิดสนใจลองไปหาดูแล้วมาใช้

มี quote นึงที่สะกิดใจประมาณว่าของรกมันไม่ได้เกิดจากการที่ห้องเล็กเกินไปแต่เกิดจากการที่ของในห้องเยอะเกินไป หลังจากการรื้อห้องครั้งใหญ่ตอนกลางเดือนพฤษภาคมที่ขนของที่ไม่จำเป็น/ขยะออกจากห้อง (ไม่น่าเชื่อว่าเยอะมาก) ก็ทำให้ห้องโล่งขึ้น -> รู้สึกว่าสมองก็โปร่งขึ้นด้วย

เดือนมิถุนายน

Cat T-Shirt

Cat T-Shirt คืองานแสดงดนตรีที่มีเปิดบูธขายเสื้อยืด (หรือไม่ก็งานขายเสื้อยืดที่มีการจัดแสดงดนตรี ไม่แน่ใจเหมือนกัน) จัดโดย Cat Radio ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปีที่ด้านล่างของ Airport Rail Link สถานีมักกะสัน ใกล้ ๆ กับสถานี MRT เพชรบุรี โดยวันที่ 1–2 มิถุนายน (เสาร์-อาทิตย์) ก็มีการจัดงานนี้เป็นครั้งที่ 6

1 มิถุนายน

(วันเสาร์) : เสื้อยืด #ทีมขี้เกียจ เป็นหนึ่งในลายเสื้อยืดของ Salmonbook เอาตัวละครมาจากการ์ตูน 4 ช่องของคุณแชมป์ ทีปกรณ์ที่ลงเป็นพัก ๆ ในทวิตเตอร์กับเพจเฟสบุ๊คของตัวเอง เป็นเรื่องของผู้ชายตัวเอกสีฟ้ากับแมวของเค้าที่ (เหมือนจะ) ขี้เกียจตลอดเวลา ซึ่งตัวเองก็ชอบในความขี้เกียจนี้มาก ๆ เลยต้องรีบหาซื้อมาใส่ (ซึ่งก็โชคดีมากเพราะตอนที่ไปของเกือบหมดแล้ว) พอซื้อเสื้อเสร็จก็เดินไปดูวง T_047 เริ่มเล่นพอดี

มีเป็นหนังสือด้วยนะเออ

ตอน 5 โมงกว่ามีจัด Fashion Show ที่คนขายเสื้อในงานมาเดินแบบโชว์กัน โดยมีดีเจอ๋องแอ๋งมาคุมเพลงในงานให้ (แล้วซักพักก็ลงมาเดิน Cat Walk โปรยเงินด้วยเพราะรวยมาก) นั่งฟังเพลงของวิโอเล็ต วอร์เทียร์, Polycat , Slot Machine ก่อนกลับบ้าน

เสื้อยืดทีมขี้เกียจ / เบอร์เกอร์ / ตัวเองใส่เสื้อยืดทีมขี้เกียจเซลฟี่กับดีเจอ๋องแอ๋ง

(️19.25.36)

2 มิถุยายน

(วันอาทิตย์) : ตอนแรกว่าจะไปดู Fever แสดงตั้งแต่ตอนเช้าแต่สุดท้ายตัดสินใจนั่ง Clear Up งานตัวเองก่อนนิดหน่อย ซึ่งหลังจาก Fever แสดงเสร็จก็ไม่ได้มีอะไรอยากดูเป็นพิเศษ เลยไปช่วงเย็น ๆ, ด้วยโคตรความเห่อเสื้อ เราเลยใส่เสื้อทีมขี้เกียจไปงานด้วยเลย ซึ่งวันนี้ก็อยู่จนจบงานเพราะอยากดู Whal&Dolph ตอนทุ่มกว่า ๆ แม่โทรมาบอกว่าให้กินข้าวเย็นก่อนกลับบ้านด้วย เลยไปซื้อเบอร์เกอร์จากโซนร้านอาหารด้านหลังงานมากิน (ชิ้นละ 100 กว่าบาท แต่อร่อยนะ)

3 มิถุนายน

วันนี้นั่ง review สรุปเนื้อหาสอบอีกรอบนึง แล้วโน๊ตรวมย่อ ๆ ไว้ในสมุด (ตอนอ่านก่อนหน้านี้มาร์กลงหนังสือเลย) บังเอิญว่าตอนดึก ๆ ของวันที่ 3 มิถุนายน Apple จัดงาน WWDC (Worldwide Developer Conference) ประจำปี ก็พลาดไม่ได้ที่จะดูก่อน

The 15th Thailand Olympiad In Informatics

ก่อนเริ่มพิธีเปิด

TOI15 หรือคอมพิวเตอร์โอลิมปิกระดับชาติครั้งที่ 15 จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยบูรพาจังหวัดชลบุรี โดยการแข่ง TOI จะเป็นงาน 4 วัน วันแรกเป็นพิธีเปิดและเช็คระบบ วันที่สองและสามเป็นการแข่งในช่วงเช้าและกิจกรรมในช่วงบ่าย และวันที่สี่เป็นพิธีปิด (ซึ่ง Pattern ทั้งหมดถูกระบุเขียนอยู่ในธรรมนูญการจัดแข่ง การแข่งขันเลยจะคล้าย ๆ กันทุกปี ต่างกันที่บรรยากาศ) ผู้มีสิทธิเข้าแข่งขัน TOI คือนักเรียนที่ได้รับคัดเลือกจากค่ายสอวน. ทั่วประเทศกับนักเรียนสสวท. กลุ่มนึงที่มาแข่งเพื่อใช้สิทธิที่จะคงอยู่ในค่ายสสวท. รวม 100 คน

ช่วงก่อนงานแข่งประมาณเดือนสองเดือนทีมงาน TOI ก็ส่งเมล username/password สำหรับลงทะเบียนผู้เข้าแข่งขันในเว็บไซต์มาให้ นอกจากรายระเอียดตัวเองที่ต้องกรอกก็มีคำถามว่า Prefer จะนอนกับใครมั้ย (เผื่อคนมีรู้จัก) พี่อาร์นี่ที่รู้จักกันจากค่าย Young Creator’s Camp ก็ทักมาถามว่ามีใครนอนด้วยยัง ตัวเองยังไม่มีก็เลยใส่ชื่อพี่อาร์นี่ไปเลย, มีถามไซส์เสื้อ (เพราะมีเสื้อยืดแจก) แล้วก็มีให้ Upload “รูปถ่ายหน้าตรง”ตัวเอง ซึ่งก็ไม่เก็ตว่าหมายความว่ารูปอะไรเลยอัพรูปนักเรียนไป สรุปคนอื่นอัพรูปถ่ายชิว ๆ กัน

http://toi15.buu.ac.th/toi15/enrollList.php

ก่อนหน้าวันงานแข่งไม่กี่วันอาจารย์ประสานงานจากศูนย์สอวน. ก็โทรมานัดให้ไปเจอที่โรงเรียนสามเสนภายใน 9 โมงเช้าวันที่ 4 มิถุนายน เพื่อที่จะขึ้นรถตู้ไปที่ม. บูรพา

4 มิถุนายน

ป้ายชื่อ

ตอนที่ผมไปถึงโรงเรียนสามเสนเป็นเวลา 8 โมงเช้านิด ๆ แต่ก็มีหลายคนที่มาถึงก่อนแล้ว ก็นั่งอ่านหนังสือรอ ๆ ไป ตอนขึ้นรถตู้ก็ขึ้นมาคันเดียวกับพี่มิวสิค (คนเดียวกับที่ทักมาวันประกาศผลนี่แหละ) ก็ทำความรู้จักกับคนอื่น ๆ จากเตรียมฯ สวนกุหลาบ เทพศิรินทร์แล้วก็นั่งเล่น UNO/Spyfall/Werewolf ฆ่าเวลากัน เอาโน๊ตบุ๊คมาเป็นที่รองไพ่ จนมาถึงที่มหาวิทยาลัย

พอลงจากรถไปลงทะเบียน ก็รับป้ายชื่อ กุญแจห้อง (สรุปคือทางทีมจัด rearrange ห้องใหม่ก็เลยไม่ได้นอนกับคนที่ลงทะเบียนไว้อยู่ดี แต่สุดท้ายก็แลก ๆ กันเองไป สรุปนอนกับพี่มิวสิค (คนเดียวกับที่ทักเรื่องประกาศผลเมื่องตอนต้นปี) กับเพื่อนเค้าอีกคนชื่อพี่เอิร์ธ) ของที่ระลึกเป็นถุงผ้า กระเป๋าดินสอ ปากกา สมุดโน๊ต กับเสื้อยืดสีเทาสำหรับใส่วันแข่งวันที่สอง (ชุดที่กำหนดคือวันแรกกับวันสุดท้าย: ชุดนักเรียน, วันที่สอง ชุดสุภาพ, วันที่สาม เสื้อยืด TOI สีเทา) แล้วให้เอากระเป๋าไปเก็บไว้ที่ห้องข้างหอประชุมก่อน

กำหนดการ

พิธีเปิดการแข่งขันจัดขึ้นที่ห้องประชุมอาคารปฏิบัติการพื้นฐานและศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์ ด้านหน้าเวทีมีธงของแต่ละศูนย์สอวน. ที่ส่งนักเรียนเข้ามาแข่ง มีการกล่าวแนะนำผู้เข้าแข่งขันทีละทีม ทีมละ 6 คน ให้ออกไปยืนคำนับหน้าเวที (การแข่ง TOI จัดนักเรียนที่เข้าแข่งขันเป็นทีม ศูนย์สอวน. ละ 1 ทีม ยกเว้นสามเสน(กรุงเทพฯ) 3 ทีม ทีมละ 6 คน เป็นแค่จัดกลุ่มเท่านั้น การแข่งจริง ๆ เป็นแข่งเดี่ยว) มีการกล่าวคำปฏิญานว่าจะแข่งด้วยความซื่อสัตย์ ไม่โกง หลังจากนั้นเป็นการกล่าวแนะนำมหาวิทยาลัย กฎการอาศัย/ข้อมูลพื้นฐาน และกฎการแข่งขัน

ตอนพักกลางวันรับประทานอาหารกันหน้าหอประชุม (และใช้ที่นี่ตลอดการอยู่ที่การแข่งขัน) มีอาจารย์เอาใบเบิกเบี้ยเลี้ยง 600 บาทมาให้เซ็น เครื่องดื่มมีน้ำเปล่า ผงโอวันติน ไมโล กาแฟกับกาน้ำร้อน หลังจากรับประทานอาหารเสร็จก็มีเวลาว่างให้เอาสัมภาระขึ้นไปเก็บไว้ที่หอพักตรงข้ามกับหอประชุม เลยนอนพักงีบนึงไปด้วยเลย

ช่วงบ่ายเป็นการเทสระบบที่คอมที่ใช้ตรงสถานที่แข่ง (อาคารวิทยาการสารสนเทศ ข้าง ๆ หอพัก ตรงข้ามหอประชุม) โดยจะมีเลขที่นั่งที่แรนด้อมไว้ให้ เราสามารถเข้าไปนั่งลองพิมพ์โค้ดแล้วรันดูได้ หลังจากนั้นก็ให้พักผ่อน กินข้าวเย็นแล้วกับไปพักผ่อนต่อ ข้างล่างหอพักจะมี family mart ลงมาซื้ออะไรกินได้ดึก ๆ วันนั้นตอนเย็นก็นั่งทบทวนเนื้อหาพร้อมกับฟังไลฟ์สดรัฐสภาโหวตเลือกนายกก่อนไปนอน

ภาพถ่ายจากหอพัก / ภาพด้านหน้าหอพัก

5 มิถุนายน

วันนี้ตาม Dress Code ให้ใส่เสื้อสุภาพ ด้วยความเห่อเสื้อ ก็เลยใส่เสื้อยืด #ทีมขี้เกียจ ไป ไปนั่งกินข้าวเช้าที่ใต้ตึกหอประชุมก่อนไปแข่งตอน 9 โมง การแข่ง TOI 1 วันจะมีโจทย์ 3 ข้อ แข่งเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ก่อนเริ่มการแข่งผมก็นั่งฟังเพลงไปเรื่อย ๆ ก่อนการแข่งประมาณ​ 10 นาที พี่ที่รู้จักบอกว่ามียาดมยัง เป็นของที่ดีมาก ๆ ระหว่างแข่ง (555) ตัวเองยังไม่มี พี่อีกคนก็บอกว่าไปเอาได้ที่ห้องพยาบาล

บนโต๊ะคอมแต่ละคนจะมีกระดาษเป็นป้ายไว้ชูสำหรับไปเข้าห้องน้ำหรือสำหรับยื่นคำสอบถาม (การแข่งจะมีกระดาษฟอร์มสำหรับสอบถามโจทย์ให้บนโต๊ะ เราสามารถเขียนใบไปส่งได้ ภายในสองชั่วโมงแรกของการแข่งขัน) โจทย์ 3 ข้อวันนี้คือ

  1. Budget : มีตึกอยู่ N ตึกซึ่งระหว่างตึกจะมีทางเชื่อมที่ระยะทางแตกต่างกัน ทางเชื่อมบางตึกมีการสร้างหลังคาเอาไว้กันแดดแล้ว ทางเชื่อมบางตึกยังไม่มี มีบริษัทอยู่ M เจ้าที่รับจ้างสร้างหลังคา ความยาวที่แตกต่างกัน (สมมติหลังคา 5 เมตร เราสามารถใช้งานบริการของบริษัทที่สร้างหลังคา 10 เมตรได้ แต่กลับกันไม่ได้) และมีราคาแตกต่างกัน ถามว่า ถ้าจะสร้างหลังคาให้สามารถเดินระหว่างตึกได้ครบทุกตึก ต้องใช้เงินอย่างน้อยเท่าใด โจทย์ข้อนี้ใช้ Minimum Spanning Tree ที่เล่าทริคนิดหน่อยคือให้ทางเชื่อมที่สร้างหลังคาแล้วความยาวเป็น 0 ไปเลย ด้วยความที่ Algo เป็น Greedy มันเลยจะเลือกอันน้ัน แล้วเก็บความยาวของเส้นนั้นเอาไว้ เอาบริการบริษัทมา Sort จากมากไปน้อยแล้วใล่วนแต่ละความยาวให้เลือกจากราคาน้อยที่สุดที่สร้างครอบคลุมความยาวเส้นนั้น
  2. Archery : มีคนยิงธนูผ่านกล่องที่วางกล่องกัน N ชั้น เรียงกันอยู่ M ตั้ง โดยในแต่ละตึกจะมี 1 กล่องที่มีรูสามารถทะลุได้ ถ้าเราสามารถเคลื่อนที่กล่องได้ทีละ 1 ชั้น (กล่องล่างสุดจะขึ้นไปอยู่บนสุด) จะต้องเคลื่อนกล่องอย่างน้อยกี่รอบเพื่อให้คนสามารถยิงธนูลอดผ่านไปได้ ข้อนี้ถ้าใช้ Greedy จะได้ 50/100 แต่ 100/100 ต้อง Observe เพื่อหาความสัมพันธ์มาแก้
  3. Fly : ข้อนี้โจทย์อธิบายยาก + ไม่มีใครที่ได้ 100/100 ในการแข่งเลย สูงสุดได้ 75/100 แต่ประมาณว่ามีค่ายกล N แถว แต่ละชั้นจะมีกำแพงด้านซ้าย-ขวาเคลื่อนที่ซ้าย-ขวาตาม Input โดยจะเคลื่อนที่ทุก 1 วินาที ถ้ากำแพงขนขอบมันจะเปลี่ยนทิศมาเป็นเข้า ถ้ากำแพงชนกันมันจะกลับไปทิศออก ถ้าแมลงวันเคลื่อนที่ได้ 1 บล็อคทุก 1 วินาที จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยเท่าไหร่ในการไปถึงอีกด้าน

Note: โจทย์ทั้งหมดสามารถเข้าไปดูได้ใน https://www.proprog.tk/tasks?tag=Thailand+Olympiad+in+Informatics+2019+%28TOI15+%2F+TOI+2019%29

Solution ข้อ Budget ของตัวเอง //แปะไว้ จะได้ไม่โล่ง555

ตอนบ่าย: สันทนาการ

มีคนวาดให้ owo

กิกรรมสันทนาการกัน ให้ไปทำความรู้จัก/ถามข้อมูลคนอื่นตามที่กำหนดไว้ ให้วาดรูปหน้าซักคนด้วยมือข้างที่ไม่ถนัดแล้วเอาไปให้เค้า หลังจากนั้นมีแบ่งทีมแต่งนิทานมีคำที่กำหนดให้แล้วซักพักก็เวียนกระดาษเอาของทีมอื่นมาเขียนต่อโดยมีคำที่กำหนดให้คำใหม่ ซึ่งตอนแรก ๆ มันก็ปกติดีหรอกแต่ซักพักมันก็กาวขึ้นเรื่อย ๆ ทุกแผ่นเลย (ประมาณว่าทีมนึงตัวละครไปกินก๋วยเตี๋ยวที่อนุสาวรีย์ชัย ก่อนไปทำอะไรซักอย่างที่บางแสน แล้วกลับมกินก๋วยเตี๋ยวต่อ แล้วอาจารย์คนนึงที่คิดข้อสอบ Competitive Programming ก็เดินมาบอกว่าก๋วยเตี๋ยวมีเส้นอยู่ N เส้นโดยแต่ละเส้นมีความยาวอยู่ M เซนติเมตร ฯลฯ แล้วมันก็กลายเป็นโจทย์ Competitive Programming ก่อนที่จะตัดจบแบบ WTF ไรงี้ ซึ่งเอาจริงมันก็เป็น Humor เฉพาะกลุ่มประมาณนึงเลย แต่ถ้าเก็ตมันจะตลกมาก) เสียดายมากที่ไม่ได้ถ่ายไว้ ;-; มีเล่นปริศนาฟ้าแลบ เปิดภาพทายคำนู่นนี่นั่น กินข้าวเย็นแล้วไปพักผ่อน

6 มิถุนายน

วันที่สองเช้าก็ไม่ได้ต่างอะไรจากวันแรกเท่าไหร่โจทย์ 3 ข้อคือ

  1. Medal : มีคน N คนสูงไม่เท่ากัน มีแสตนด์ N อันสูงไม่เท่ากัน คนแต่ละคนต้องยืนอยู่บนแสดนด์อันนึง ถ้าจะมอบเหรียญให้ทุกคน ประธานต้องมีการเลื่อนมือขึ้นลงอย่างน้อยที่สุดกี่เซนติเมตร โจทย์ข้อนี้คิดว่าง่ายที่สุดในการแข่งเลย คือทำให้ Delta น้อยที่สุด -> ความสูงต้างใกล้เคียงกัน -> sort ความสูงคนจากน้อยไปมาก ความสูงแสตนด์จากมากไปน้อย เอาแสตนด์[M]+ความสูง[M]มาบวกกันสร้างเป็น array ใหม่แล้ว sort อีกรอบ ไล่ลูปหาผลต่างแต่ละคนแล้วเอามาบวกกัน
  2. Cave : มีถ้ำที่มีโถงอยู่ N โถงต้องการเข้าไปช่วยเหลือ (ส่งเสบียงให้) คนที่อยู่ในโถง F โดยเริ่มจากโถง S แต่ละโถงจะมีน้ำขึ้น-ลงซึ่งเวลาเดินถางผ่านโถงนั้นจะท่ากับระดับน้ำ เวลาที่น้อยที่สุดในการเข้าไปหาคนที่โถง F คือเท่าไหร่ แต่จะมีการเข้าไป X รอบซึ่งแต่ละรอบระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นต่างกัน ข้อนี้ส่วนที่เช็คระยะทางเป็น Shortest Path Algorithm ที่จะมีเงื่อนไขพิเศษเรื่องระดับน้ำ ส่วนในการไล่ Loop แต่ละครั้งถ้าไล่ตรง ๆ เวลาจะไม่พอ หลายคนก็ใช้ DP ในการเก็บ State ไว้ใช้ต่อ
  3. Minreq : มีนักเรียน N คน (ที่เข้าเป็นแถวไว้) พี่เลี้ยง M คน ลิฟต์ J ตัว นักเรียน/พี่เลี้ยงน้ำหนักไม่เท่ากัน จะให้ขึ้นลิฟต์ (ซึ่งแต่ละรอบใช้เวลา 1 นาทีเสมอ) และต้องมีพี่เลี้ยงทุกรอบ ลิฟต์แต่ละตัวรับน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยกี่นาทีให้นักเรียนขึ้นลิฟต์ได้หมด (ข้อนี้โจทย์รายละเอียดจริง ๆ เยอะมาก ๆ อธิบายยาก ใครสนใจไปอ่าน Link Proprog ด้านบนได้) ตอนนั้นทำไม่ทันเลย Greedy ไปเลย

หลังจากแข่งเสร็จ ก็ให้เวลาทุกคนไปพักผ่อนก่อนที่จะนัดช่วงบ่ายไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์

ช่วงบ่าย: ทัศนศึกษา: จรวด Saturn V กับกาแฟ Cold Drip

แข่ง TOI เสร็จ เค้าพามาทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์ของ Gistda, มามองความทะเยอทะยานของมนุษย์ตั้งแต่เวลาที่แหงนหน้ามองดวงดาวตอนค่ำคืน จินตนาการเป็นตำนานต่าง ๆ มากมาย เหล่าดวงดาวผูกพันกับมนุษย์มาตลอด ผ่านยุคมืด ยุคเรืองปัญญา ปฏิวัติวิทยาศาสตร์ จนกระทั่งยุคที่มนุษย์ได้สร้างหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ปราณีตที่สุดออกมาเพื่อเดินทางไปบนนั้น; เพราะมนุษย์ไม่เคยหยุดที่จะฝันเลย

Text ที่อยู่ด้านบนคือสิ่งที่เขียนลง Facebook ตอนเดินที่เข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ Space Inspirium ของ Gistda ที่ TOI พาไปทัศนศึกษา ที่เหมือนจะลืมเปิดแอร์ (ไม่ก็เปิดแล้วแต่ไม่เย็น)

Gistda (Geo-Informatics and Space Technology Development Agency) เป็นองค์กรของไทยที่ทำเรื่องเกี่ยวกับภูมิสารสนเทศและอวกาศ พิพิธภัณฑ์เลยเหมือนจะแบ่งเป็นพาร์ทภูมิสารสนเทศกับพาร์ทอวกาศกลาย ๆ
วิทยากรเริ่มนำไปชมจากส่วนของภูมิสารสนเทศ อธิบายเรื่องของระบบภูมิสารสนเทศ 3S; GNSS (Global Navigation Satellite System), GIS (Geographic Information System) และ RS (Remote Sensing) ก่อนจะพาไปชมวิดิทัศน์เรื่องเกี่ยวกับอวกาศ​ และจบด้วย quote ของ Arthur C. Clarke ผู้แต่งนิยายเรื่องชุด a space odyssey ว่า “Two possibilities exist: either we are alone in the Universe or we are not. Both are equally terrifying” (ไม่เก็ตว่าทำไมเลือกคำนี้ รู้สึกมันไม่ได้มี Intention เป็นการ Inspire การสำรวจอวกาศนะ 555)

หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เดินชมพาร์ทอื่น ๆ ด้านในมีนิทรรศการประวัติศาสตร์ของการสำรวจอวกาศตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน ที่สะดุดตาผมคือโมเดลจรวด Saturn V ขนาดย่อม ๆ ที่แขวนไว้กับกำแพง หน้าพิพิธภัณฑ์มีโมเดลจำลอง Falcon 9 และมีห้องจำลอง Module แลป Kibo บนสถานีอวกาศนานาชาติ (Fun Fact : คนไทยเพิ่งจะมีการทดลองแรกที่ส่งขึ้นไปที่ Kibo (รวมถึงครั้งแรกที่ไทยส่งขึ้นไปบน ISS) เมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นการร่วมมือกับ JAXA เพื่อส่งโปรตีนขึ้นไปตกผลึกบนอวกาศ (ให้ผลชัดเจกว่าตกผลึกบนโลก) เพื่อเอามาวิเคราะห์และนำไปพัฒนายารักษามาลาเรีย) หน้าพิพิธภัณฑ์มี Gallary แสดงผลงานภาพวาดประกวดของเด็กนักเรียนหัวข้อเกี่ยวกับอวกาศ ผมกับคนอื่น ๆ ที่ไปดูก็เห็นตรงกันว่า “นี่มันบ้าไปแล้ว ตอนนี้ตัวเองยังทำไม่ได้ขนาดนี้เลย”

ถัดออกมาเป็นคาเฟ่ชื่อ Cosmo Cafe’ To มีขายพวกเครื่องดื่มต่าง ๆ แต่ที่ผมสะดุดตาคือเครื่องทำ Cold Drip ที่ตั้งอยู่หน้าเคาท์เตอร์; Cold Drip คือวิธีการทำกาแฟแบบหนึ่งที่จะใช้น้ำเย็นหยดลงบนผมกาแฟทีละหยด ให้ซึมผ่านผงกาแฟลงไปยังภาชนะที่รองน้ำกาแฟด้านล่าง วิธีการทำวิธีนี้จึงจะได้กาแฟที่มีกลิ่นหอมเพราะน้ำผ่านกาแฟนานมาก ต่างจากกาแฟร้อนที่ผ่านเครื่อง Espresso ที่น้ำสัมผัสกาแฟเพียงเวลาสั้น ๆ เนื่องจากเป็นการแฟที่ค่อนข้างหาดื่มยาก ก็เลยอดไม่ได้ที่จะซื้อมาลองชิม และได้ไปคุยกับเจ้าของร้าน เค้าก็บอกว่ายินดีที่ได้เจอคนชอบกาแฟแบบนี้เพราะหาไม่ค่อยมีเหมือนกันและถ้าอยากดื่มอีกร้านก็มีบริการส่งเข้ากรุงเทพนะ555

Saturn V / Cold Drip และเครื่องชง

ตอนเย็น: งานเลี้ยงปิด

หลังจากกลับมาจาก Space Inspirium ทุกคนก็กลับไปเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อยืดสีเหลืองตาม Dress Code ก่อนจะไปรวมตัวกันด้านล่างแล้วเดินไปที่โรงแรมพร้อมกัน งานเลี้ยงจัดเป็นโต๊ะจีนตามทีมที่แข่ง อาหารที่จะเอามาเสิร์ฟเป็นอาหารแบบโต๊ะจีน มีกิจกรรมเล็กน้อย ๆ มีนักร้องมาแสดงสดบนเวที ก่อนจะร้องเพลงสามัคคีชุมนุม ทีมสามเสนถ่ายรูปรวมกันแล้วเดินกลับที่พัก

7 มิถุนายน

บทสรุปของเรื่องราวเกือบ 1 ปีมาจบลงที่วันนี้ ผมได้เหรียญทองแดง

ตั้งแต่มาทางนี้ ผมเห็นคนที่ตั้งใจกว่าผม ทุ่มเทกว่าผม (บางคนเก่งกว่าผมด้วยซ้ำ) แต่ความพยายามนั้นมันไม่ได้ส่งผลออกมา, บางคนไม่ติด ไม่ผ่าน ไม่ได้เหรียญ ในขณะที่ผมก็ไม่ได้ทุ่มมากขนาดพวกเค้าเลย แต่แค่โชคดีกว่ารึเปล่า ? ผมกลัวว่าผมทำให้เค้ารู้สึกแย่อยู่ตลอด บางทีก็ไม่กล้าคุยกับเค้าเพราะกลัวจะทำเค้ารู้สึกแย่ไปอีก
(ขอโทษคนเหล่านี้ด้วยนะครับถ้าทำให้รู้สึกไม่ดี แล้วขอโทษที่ผมไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้ได้นอกจากพูดว่าสู้ ๆ นะครับ)

พาร์ทนึงของโพสต์ที่ผมเขียนลงเฟสวันนั้นตอนกำลังนั่งรถตู้กลับกรุงเทพฯ

ความรู้สึกผิดมันเกิดขึ้นมาตอนที่มองย้อนกลับไปแล้วเห็นคนที่พยายามมากกว่าแต่โชคอาจจะไม่ได้ดีเท่าเรา หลังประกาศรางวัลผมขอโทษคนไปสองคน ก่อนที่จะนั่งรถกลับกรุงเทพฯ วันนั้นทั้งสองคนบอกผมว่าไม่เป็นไร อย่าไปคิดมากเกินไป มันเป็นเรื่องธรรมดา ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต

วันนั้นฝนตกหนักมาก รถตู้มาส่งที่โรงเรียนสามเสนแต่ผมก็แวะไปที่โรงเรียนก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน กินแกงจืดเต้าหู้แล้วไปนอน

8 มิถุนายน and Beyond the Infinite

วันที่ 8 มิถุนายนเป็นวันเสาร์ ผมไปเดินเที่ยวงาน Eat Meat Fest 2 ที่ MBK เดินหอศิลป์แล้วกลับบ้าน วันที่ 9 มิถุนายนผมไปสัมภาษณ์เป็นครูอาสาโครงการ Saturday School season 8+ ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์ ได้ไปเป็นครูสอนวิชาอ่านการ์ตูน (ที่จุดมุ่งหมายหลักคำว่า “อ่าน” คือฝึกการวิเคราะห์เนื้อหา แล้วสอนไปสอนมาเจอว่านักเรียนเป็นสายชอบลงมือทำงานเลยทำหนังสั้นเป็นโปรเจกต์จบกัน) 10 สัปดาห์ (ซีซั่นนึงของโครงการ) ทำให้ผมก็ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ เยอะเลย

#ทีมวัดปทุมวนาราม / Saturday School SS8+ / Me and My Friends

เคยเห็นโพสต์หรือกระทู้ถามในอินเตอร์เน็ตว่าปกติคนที่ไปแข่งแบบพวกนี้ปกติเค้ามีชีวิตกันยังไง ก็ขอตอบตรงนี้เลยว่า ก็แบบคนปกติครับ555 ไปเที่ยวนู่นนี่นั่น ส่วนตัวเองก็ชอบ Hangout กับคนที่รู้จักจากพวกค่ายสาย Technology หรือไปงานสัมมนานู่นนี่นั่น (งานแข่งนอกเหนือจาก TOI ที่เป็นสายคอมงานเดียวเลยที่แข่งก็คือ Stupid Hackathon ที่ก็ไม่ได้แข่งกันจริงจัง) ที่โรงเรียนผมเป็นประธานชุมนุมคอมพิวเตอร์ก็มีทำงานบ้าง แล้วก็เป็นคนช่วยสอน Gifted Com ของโรงเรียนตอนเย็นวันจันทร์

ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ครบรอบ 50 ปี Moon Landing ผมที่เกิด hype ด้าน spacecraft ก็เขียนบทความเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่อยู่บน Command Module/Lunar Module ของยาน Apollo 11 ลงเฟส แล้วมีโอกาสได้ลงใน Spaceth.co

ถ้าถามว่าหลังจากนี้จะทำอะไร ก็คงจะตอบว่าหาอะไรใหม่ ๆ ทำ: เรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ หาประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ นั่นแหละ เพราะการเรียนรู้มันไม่มีวันสิ้นสุด

เส้นทางชีวิตมันแตกต่างกันออกไปบางทีเราก็สมหวัง บางทีเราก็ผิดหวัง แต่คนที่กลัวอนาคตคือคนที่ไม่ได้เป็นคนกำหนดอนาคตของตัวเอง ถึงเราจะไม่สามารถทำให้ทุกอย่างสมหวังได้ก็ตาม แต่ก็อย่ากลายเป็น npc ที่เป็นเพียงถูกควบคุมจากโปรแกรมนะ การสร้างคุณค่าของตัวเองบางทีก็ไม่ได้ยึดติดกับอะไรอย่างหนึ่ง มันไม่ผิดที่เราจะเห็นความสำคัญของจุดหมายนึง แต่ก็อย่าลืมว่ามันมีทางอีกเป็นร้อยเป็นพัน และมีเรื่องราวที่อยู่บนเส้นทางระหว่างนั้นอีก
ผมจะไม่ลืมเรื่องที่ผ่านมานะ ขอบคุณทุกความทรงจำบนทางเส้นนี้ที่เป็นประสบการณ์ให้กับผมต่อไปในอนาคต.

(พาร์ทสุดท้ายขอโพสต์ที่ผมเขียนวันกลับมาจาก TOI)

-จบ-

--

--